บลัช ติดทน บลัชออนเป็นหนึ่งในไอเทมชิ้นสำคัญสำหรับคนที่ชอบแต่งหน้า เพราะช่วยเนรมิตให้พวงแก้มมีความสดใส ใบหน้าแลดูสุขภาพดี ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมาในโทนสีชมพู สีแดง และสีส้มที่ทำให้ใบหน้าให้ดูมีชีวิตชีวา รวมถึงยังมีโทนสีสุภาพอย่างสีนู้ดน้ำตาล บลัชออนแบบไหนติดทนที่สุด หรือสีชมพูหม่น ๆ ที่จะมักจะใช้กับการแต่งหน้าแบบสโมกกี้อาย ส่วนวิธีการปัดบลัชออนก็มีหลายแบบที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับโครงหน้าที่ต่างกัน รวมถึงยังให้ลุคที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย
บลัชออน รุ่น Afterglow Liquid Blush บลัช ติดทน
บลัช ติดทน เมื่อพูดถึงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางระดับโลก สาว ๆ จะต้องนึกถึงแบรนด์นี้ ด้วยสีสัน แท็กเจอร์ที่เข้าได้กับทุกสีผิว แถมยังมอบฟินิชลุคที่ให้ความสวยแบบธรรมชาติและยังเหมาะกับผิวแพ้ง่าย ในครั้งนี้เราขอแนะนำบลัชออนแบบน้ำที่เหมาะกับคนที่ชอบการแต่งหน้าสไตล์งานผิว โดยเนื้อสีจะมีความระเรื่อ เนื้อบางเบา นุ่มสบายผิว ไม่จับตัวกันเป็นก้อน และยังเกลี่ยง่ายด้วยนิ้วมือโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งอุปกรณ์ให้ยุ่งยาก แถมสามารถทาทับเมคอัพได้บ่อย ๆ ตามต้องการในส่วนของโทนสีนั้นจะให้เลือก 6 เฉดสีที่ให้พิกเมนต์ที่มีความธรรมชาติเป็นสูง บลัชออนแบบแท่ง ยี่ห้อไหนดี จึงแนะนำให้ทาทับเป็นเลเยอร์ประมาณ 3 – 4 ครั้ง แล้วใช้นิ้วมือเบลนด์ให้กระจายจะช่วยให้ได้สีที่ดูชัดมากขึ้น ซึ่งข้อดีของเนื้อสีที่บางเบานี้จะช่วยลดความผิดพลาดในการแต่งหน้า และยังเหมาะกับมือใหม่ที่เพิ่งหัดแต่งหน้าอีกด้วย นอกจากนี้ เนื้อบลัชยังให้ความชุ่มชื้นโดยมีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอนิคและคอลลาเจน ทำให้ฟินิชผิวที่ได้ดูโกลว์ใสและไม่ทำให้เกิดคราบระหว่างวันค่
บลัชออน รุ่น Cream Cheek
แบรนด์เครื่องสำอางจากประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการการันตีจากสาว ๆ ผู้ใช้จริงว่า ให้เนื้อที่เนียนนุ่ม เบาสบาย เกลี่ยง่ายและไม่ทำให้เกิดคราบในขณะที่เบลนด์ แถมยังเหมาะกับมือใหม่ที่เพิ่งหัดแต่งหน้า รวมถึงคนที่ชอบงานผิวแบบธรรมชาติ โดยบลัชออนรุ่นนี้จะเป็นเนื้อครีมที่ให้เม็ดสีที่ซอฟต์ ดูระเรื่อ มาพร้อมส่วนผสมของชิมเมอร์เนื้อละเอียดที่ช่วยให้พวงแก้มดูสดใส ซึ่งบลัชออนรุ่นนี้ยังสามารถใช้ทาก่อนลงแป้ง หรือหลังลงแป้งได้โดยไม่ทำให้เกิดคราบสำหรับสีของบลัชออนมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ซึ่งจะมีเพียงสี CL01 Clear Red Heart ที่เป็นแบบเจลและไม่มีส่วนผสมของชิมเมอร์ อีกทั้งโทนสีส่วนใหญ่จะเน้นไปทางสีสันที่สดใสและสามารถใช้ได้ทุกโทนสีผิว รวมถึงทุกสภาพผิว โดยฟินิชลุคที่ได้คือ พวงแก้มจะดูระเรื่อแบบธรรมชาติ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการให้สีดูชัดขึ้นแนะนำให้ลงทับเป็นเลเยอร์ประมาณ 3 – 4 ครั้ง แล้วเบลนด์ให้กระจายทั่วพวงแก้มด้วยฟองน้ำ หรือแปรง จะทำให้ผิวดูเรียบเนียนและได้เนื้อสีที่พอดีค่ะ
บลัชออน รุ่น Les Beiges
ในปัจจุบันสไตล์การแต่งหน้าแบบสายฝอจะไม่ได้เน้นสีให้ดูชัด แต่จะเน้นฟินิชของเมคอัพที่ดูเป็นธรรมชาติสูง อย่างบลัชออนจากแบรนด์นี้ก็ได้รับความนิยมจากสาว ๆ ทั่วโลก โดยจัดอยู่ในไลน์ของ Les Beiges ที่ให้ผิวดูเปล่งประกายและยังให้สีสันที่ดูระเรื่อแบบธรรมชาติ โดยบลัชรุ่นนี้จะมีเนื้อสัมผัสแบบน้ำที่ไม่เหลวจนเกินไป มีความเกาะติดที่ผิวและเนื้อสีมีความยืดหยุ่นไปกับผิว แถมบลัชออนยังเกลี่ยง่าย ให้ผิวดูโปร่งสบาย และมีความโกลว์ที่ให้พวงแก้มดูเปล่งปลั่งอีกทั้งบลัชออนรุ่นนี้ยังให้เนื้อสัมผัสที่บางเบา จึงช่วยให้คุณสามารถเพิ่มระดับความเข้มของเม็ดสีได้ โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 4 เฉดสีที่สามารถใช้ได้กับทุกโทนสีผิว รวมถึงมีส่วนผสมจากพืชพรรณธรรมชาติที่ให้ผิวดูชุ่มชื้น ในส่วนของวิธีใช้คือ แนะนำให้กดออกมา 1 ปั๊ม ลงบนฝ่ามือแล้วเกลี่ยให้เนื้อบลัชมีการแตกกระจาย จากนั้นใช้แปรงเกลี่ยลงที่พวงแก้มแล้วเบลนด์เบา ๆ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์จะมีส่วนผสมของน้ำหอม ผู้ที่แพ้น้ำหอมควรหลีกเลี่ยงการใช้ค่ะ
บลัชออน รุ่น For You Too Moji Blush
การแต่งหน้าสำหรับสาว ๆ ที่มีปัญหาเมคอัพหลุดลอกบ่อย ๆ เราขอแนะนำบลัชออนที่มีเนื้อบางเบา เพื่อช่วยให้เกาะติดผิวได้ดีกว่าการใช้บลัชเนื้อครีมที่มีแท็กเจอร์ที่หนา สำหรับบลัชออนรุ่นนี้จะมีเนื้อสัมผัสบางเบา เม็ดสีมีความละเอียด เกาะติดผิวได้ดี โดยจะมีความเนียนนุ่ม กลมกลืนและเรียบเนียนไปกับผิว เมื่อปัดลงที่พวงแก้มจะให้เม็ดสีที่ค่อนข้างชัด แต่จะมีความฟุ้ง จึงทำให้สีบลัชออนดูละมุน และยังไม่ทำให้เกิดคราบ หรือเนื้อบลัชจับตัวกันเป็นก้อนนอกจากนี้ ยังมีประกายของชิมเมอร์เนื้อละเอียดที่ช่วยให้ผิวดูมีมิติ อีกทั้งมีให้เลือกทั้งหมด 9 เฉดสี แถมยังให้การติดทนนานตลอดทั้งวันโดยไม่หลุดลอก ฟินิชที่ได้จะมีความแมตต์และมีความระยิบระยับของชิมเมอร์ อย่างไรก็ตาม ด้วยเนื้อสีที่ค่อนข้างชัด แนะนำให้ใช้ฟองน้ำ หรือแปรงเบลนด์จะช่วยให้เนื้อของบลัชออนดูฟุ้งและอ่อนลง รวมไปถึงสำหรับสาวผิวมันคงลงในปริมาณที่น้อยและทับด้วยบลัชเนื้อแมตต์อีกครั้ง จะช่วยให้บลัชติดทนนานมากขึ้นค่ะ